ข้างบ้านเรือใบ: ‘โอลด์ แทรฟฟอร์ด’ เป็นเพียงสนามซ้อมของ ‘เป๊ป กวาร์ดิโอล่า’
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แมนเซสเตอร์ ได้เป็นสีฟ้าอีกครั้งและเป็นมาเสมอตลอดช่วง 12 ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นจำนวนปีที่ ‘ผีแดง’ ไม่เคยจบอันดับในลีกได้สูงกว่า ‘เรือใบ’ และ 0-3 เป็นจำนวนประตูที่น้อยกว่าควรจะเป็นด้วยหาก โอนาน่า ไม่ช่วยเซฟให้กับทีม
เกมล่าสุด แมนฯซิตี้ แสดงให้เห็นถึงความห่างชั้นระหว่าง 2 ทีมให้ทั้งโลกได้เห็นไม่ว่าจะเป็นการครองบอลแบบหมดจดและปิดโอกาสไม่ให้คู่แข่งได้ยิงเข้ากรอบประตูมากนัก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้จัดแผนการเล่นที่ดีที่สุดในเกมนี้ โดยให้อิสระในการวิ่งกับ แบร์นาโด้ ซิลบา เพื่อเชื่อมเกมแดนกลางกับแนวรุกของทีม ในขณะที่ แจ็ค กรีลิซ ก็ได้รับความไว้ใจในเกมใหญ่เสมอและดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะทำผลงานได้ดีทั้งการสร้างสรรค์โอกาสและการครองบอลที่เป็นจุดแข็ง
แน่นอนเลยว่าคนสำคัญในแดนกลางอย่าง โรดรี้ ที่เปรียบเสมือนหัวใจของทีมก็เล่นได้อย่างโดดเด่นเอาชนะแผงกองกลางทั้ง 3 คนของ แมนเซสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบราบคราบทำให้ทีมสามารถเล่นได้แบบที่ควรจะเป็นโดยได้รับการสนับสนุนจาก จอห์น สโตนส์ ที่เป็นเหมือนไฮบริดระหว่างกองกลางและกองหลัง ต่อมาก็เป็นแนวรุกอย่าง ฟิล โฟเด้น และ ฮาลันด์ คู่หูนรกที่มันจะเล่นดีเมื่อเจอ ‘ปีศาจแดง’ ก็ได้แสดงความโหดด้วยการช่วยกันยิงไปมัดรวม 3 ประตูถ้วน
เป็ป กวาร์ดิโอล่า สามารถพาทีมชนะใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปแล้ว 5 ครั้ง ตลอด 7 ปีที่คุมทีม เหนือกว่าผู้จัดการทีมคนอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก นั่นพอบ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวมีความมุ่งมั่นและความต้องการจะเปลี่ยนเมืองแมนเซสเตอร์ให้เป็นสีฟ้ามากแค่ไหน โดย เป๊ป ได้กล่าวหลังเกมว่า “เรามีความรู้สึกดีๆ เสมอที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด”
ในฐานะแฟนบอล แมนฯซิตี้ ต้องบอกว่าชัยชนะนัดนี้สำคัญกับทีมมากจริงๆในช่วงที่ฟอร์มของทีมยังไม่เข้าที่บวกกับตารางการแข่งขันที่โหดมากตลอด 10 เกมหลังจากนี้ เกมบุกชนะ แมนฯยูไนเต็ดจึงเปรียบเสมือกระดุมเม็ดแรกที่เพิ่มความมั่นใจให้นักเตะในทีมเพื่อคว้าชัยชนะต่อเนื่องไปจนกว่า เควิน เดอ บรอยน์ จะหายกลับมา… เขียนโดย The Lite Team.